Godzilla vs Kong กับการสำรวจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัวเอง

Posted 2021/03/30 221 0

Godzilla vs Kong หนึ่งเดียวที่จะยืนหยัดสู่การเดินทาง เพื่อตามหาบ้านที่แท้จริง

Godzilla vs Kong หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความกล้าหาญและเผชิญความรุนแรงมานานหลายทศวรรษ คองได้ใช้ชีวิตและเรียนรู้จากเหล่านักวิทยาศาสตร์บนเกาะ Skull Island ที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป แต่อยู่ในวัยโตเต็มตัว มีขนาดใหญ่ขึ้น กล้าหาญขึ้น และบ้าพลังกว่าเดิม

คองในเรื่องนี้จะดูมีขนาดใหญ่ยักษ์กว่าที่เคยเห็นบนหน้าจอมาก่อน แต่ยังคงมีความผูกพันกับมนุษย์เหมือนที่เคยเป็นมา ซึ่งครั้งนี้คือเด็กสาวกำพร้าบนเกาะกะโหลกซึ่งเปรียบเสมือนสายพันธุ์สุดท้าย เธอมีชื่อว่าเจีย “หนังเรื่องนี้คองได้สำรวจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัวเอง ต้นกำเนิดของเขา มันมีเรื่องของการค้นพบเรื่องราว” วินการ์ดกล่าว “และมันเหมือนการเปิดประตูหลายบานให้เห็นว่ามีอะไรรอตัวละครอยู่บ้าง”

เพราะคองและก็อดซิลล่าต่างมีความเมตตาเหมือนมนุษย์ ไม่ใช่แค่ด้านการแสดงออกเพียงอย่างเดียว (และโดยผู้ชำนาญที่มีฝีมือและสาวๆ ผู้เรนเดอร์พวกเขาผ่านสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ที่น่าตื่นตา) แต่ยังรวมถึงนิสัยใจคอของตัวละครในเรื่อง ที่ต้องมั่นใจเรื่องความอยู่รอดและความปลอดภัย ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นฮีโร่หรือวายร้าย ทุกอย่างล้วนเป็นที่จับตามองจากผู้ชม

นั่นคือประเด็นสำคัญที่วินการ์ดให้คำมั่นเอาไว้ว่า “นี่คือ หนังสัตว์ประหลาดฟอร์มยักษ์ ที่ไม่ได้มีเพียงตัวละครสำคัญเพียงตัวเดียว แต่มีถึงสองตัวในประวัติศาสตร์หนังการต่อสู้กัน ซึ่งทั้งคู่เป็นตัวละครฝ่ายดี หรืออาจจะไม่ดีขึ้นอยู่ที่คุณจะมองอย่างไร ความสนุกอยู่ที่การได้เห็นว่า ผู้ชมอินกับฝ่ายไหน และได้เห็นปฏิกิริยาของพวกเขาเวลาที่รู้ว่าใครเหนือกว่ากัน!”

มาทำความรู้จักน้องเจีย เด็กหญิงจากเกาะกะโหลก

Godzilla vs Kong

ในหนังนักแสดงหน้าใหม่ อย่างฮอทเทิลรับบทมนุษย์เพียงคนเดียว ที่ผูกพันกับคอง และเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่หวาดกลัวลิงยักษ์ขนาด 300 ฟุต เจียตัวน้อยเป็นสมาชิกของเผา และวีบนเกาะกะโหลก แอนดรูว์รับเลี้ยงเธอหลังจากที่พ่อแม่ของเธอ โดนสกอลโครว์เลอร์ฆ่าตาย

วินการ์ดเล่าว่าไม่ต่างจากฮอลล์ “โดยปกติแล้วคิงคองจะผูกพัน กับตัวละครนำหญฺง ซึ่งมักเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันสนใจ และยิ่งทำให้ฉันสงสารเขา จนเราอยากออกแรงช่วยในเรื่องนี้ เราต้องการตัวละครที่มีความผูกพัน กับคองเป็นพิเศษ ฉะนั้นการที่เจียไม่ได้ยินอะไรเลย ใช้การสื่อสารด้วยภาษามือ เหมือนวิวัฒนาการใหม่ที่เราใช้ได้กับคอง ซึ่งเป็นตัวละครที่มองว่ามีความฉลาดมาก เพราะพ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ตั้งแต่อายุยังน้อย คองเลยกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และเราเรียนรู้มาว่าเธอสอนให้เขา เข้าใจภาษามือเพื่อสื่อสารกับเธอ”

การ์เซียเล่าว่า “การหาเด็กผู้หญิงที่เหมาะจะมารับบทเจีย ถือเป็นความท้าทายมาก เราต้องทิ้งช่องทางการคัดเลือกนักแสดงแบบเดิม ๆ และเคย์ลีคือความโชคดีของเรา สำหรับการคัดตัวนักแสดง เธอไม่เคยแสดงหนังมาก่อนด้วย แต่ด้วยระบบเครือข่ายการคัดเลือกนักแสดง ของผู้กำกับฯ และภาพยนตร์ ทำให้ผู้กำกับนักแสดงยอดฝีมือของเรา ซาราห์ ฮอลลีย์ ฟินน์ สามารถหาตัวเธอได้ และช่วงเวลาที่เราได้พบกับเคย์ลี เรารู้ทันทีว่าเธอคือคนที่ใช่สำหรับบทนี้”

วินการ์ดเห็นด้วยว่า “คุณเดาไม่ออกหรอกว่า นี่คือหนังเรื่องแรกของเธอ เคย์ลีคือหนึ่งในนักแสดงที่เป็นมืออาชีพมากเท่าที่เคยร่วมงานมาเลย”

ฮอทเทิลสนุกกับประสบการณ์ด้านภาพยนตร์ครั้งแรกของเธอ โดยเล่าว่า “ฉันชอบการอยู่ในฉาก และเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง หนังฉากนั้นเป็นอย่างไร” แต่ฉันไม่เคยดูหนังก็อดซิลล่าหรือคองมาก่อนเลย “ฉันไม่รู้เลยว่าก็อดซิลล่ากับคิงคองใช้กรีนสกรีนช่วยมาโดยตลอด”

เมื่ออธิบายถึงบทเจีย ฮอทเทิลเล่าว่า “เธอมาจาก Skull Island ค่ะ เธอกับคองเป็นเพื่อนซี้กัน” เธอยังยืนยันความรู้สึกของเจียที่มีต่อไอลีน แอนดรูว์ ตัวละครของฮอลล์อีกด้วยว่า “เธอเหมือนกับแม่ที่คอยดูแลฉันค่ะ”

นอกจากการเรียนรู้ภาษามือจากฮอทเทิลแล้ว ฮอลล์เล่าว่าช่วงระหว่างพัก เธอเห็นว่าฮอทเทิลสนใจเรื่องมายากล และการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วคือ สิ่งที่ทำให้นักมายากลอย่างพวกเขาสนุกสนานกันมาก “ฉันเล่นมายากลได้นะคะ” นักแสดงสาวแอบกล่าวยืนยัน

ในการถ่ายทำเรื่องนี้ทำให้เธอ ได้เดินทางไปออสเตรเลียเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งที่นั่นเธอได้พบกับสิ่งมีชีวิตตัวจริงอีกมากมาย แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าเพื่อนนักแสดงขนาดยักษ์ของเธอก็ตาม “เราไปดูโคอาล่าและจิงโจ้ด้วย” เธอกล่าว และเล่าว่าเธอได้อุ้มโคอาล่าด้วย “พวกมันเป็นสัตว์ที่ฉันชอบมากเลยค่ะ”

เจียร่วมมือกับ ดร.แอนดรูว์ส ลินด์ และทีมงานจำนวนมาก เพื่อขนส่งคองทางเครื่องบินขนาดใหญ่ผ่านท้องทะเล แม้แต่ผู้บริหารแห่งโมนาร์ชที่รับบทโดยแลนซ์ แรดดิคยังร่วมเดินทาง เพราะพวกเขาต่างรู้ว่า ไม่ได้อยู่ที่นั่นเพียงลำพัง ยังมีก็อดซิลล่าที่เมื่อไม่กี่ปีก่อน เพิ่งต่อสู้กับโรดันและกิโดราห์ พยายามซ่อนตัวไม่ให้เป็นที่สนใจ ตอนนี้มันกลับมาและกำลังจะมุ่งหน้ามาหาพวกเขา

Godzilla vs Kong แผนการสร้างมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่

Godzilla vs Kong

ณ วินาทีนี้คงไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหน ที่จะมีกระแสแรงไปมากกว่าภาพยนตร์เรื่อง Godzilla vs. Kong อีกแล้ว หลายคนคงจดจำความมันส์ ของภาพยนตร์เรื่องนี้กันได้เป็นอย่างดี และถ้าติดตามมาตลอดก็จะรู้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราว ที่ผ่านการปูเรื่องยาวนานมาตั้งแต่ปี 2014 ผ่านภาพยนตร์ 3 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Godzilla, Kong: Skull Island และ Godzilla: King of the Monsters ซึ่งภาพยนตร์ทั้งหมดนี้ถูกเปิดเผยแล้วว่า เป็นการวางแผนโดยตรงมาสู่ภาพยนตร์เรื่อง Godzilla vs: Kong หนังประวัติศาสตร์

Max Borenstein หนึ่งในมือเขียนบทของภาพยนตร์เรื่อง Godzilla vs. Kong ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การเผชิญหน้าใหญ่ชนยักษ์ครั้งนี้ ถูกวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ก่อนปี 2014 แล้ว เขาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CinemaBlend ว่า…

“ก่อนหน้านี้ในช่วงงานสร้างของหนัง Godzilla ภาคแรก น่าจะช่วงหลังจากเสร็จการถ่ายทำนะครับที่ผมได้เสนอกับ Thomas Tull หัวหน้าของ Legendary ในช่วงเวลานั้น และ Mary Parent กับ Alex Garcia โปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์ ที่พวกเขามีอำนาจตัดสินใจ ในเฟรสไชส์เกี่ยวกับการสร้างหนังเรื่องKong และวิสัยทัศน์ของโทมัสก็คือ การสร้างหนังที่มุ่งตรงไปสู่ Godzilla vs. Kong เพราะเขาเป็นแฟนตัวยงของทั้งก็อดซิลล่า และ คอง นั่นล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่นำพวกเรามาสู่จุดนี้ แต่มันก็เกิดขึ้น แบบทีละขั้นทีละตอนนะครับ ผมแค่จะบอกว่าครั้งหนึ่งพวกเราเคยคิดกันว่า ‘โอเค ก็อดซิลล่าก็ออกมาดี งั้นก็มุ่งไปที่หนังของKong ต่อเลยล่ะกัน’ และนั่นคือเหตุผลที่เราเอาพวกมันมาเจอกันครับ”

ความสนุกความมันส์ในฉากต่อสู้สุดท้าย จะออกมาเป็นอย่างไร

Godzilla vs Kong

แม้ว่า ฮอลโลว์เอิร์ธ จะทำให้เกิดโอกาสแปลก ๆ หลายอย่างในเรื่องของขนาดและความยิ่งใหญ่ พาเทอร์สันเล่าถึงมุมมองของเขาให้ฟังว่า “ผมคิดว่าความท้าทายที่ใหญ่สุด คือถนนของฮ่องกง เพื่อไม่ให้เป็นการหลุดอะไรออกไป ที่นั่นจะมีก็อดซิลล่าต่อสู้กับคอง และพวกมันทำลายพื้นที่เป็นวงกว้าง เราต้องสร้างฉากที่จับต้องได้จริงขึ้นมา มีการวางแผนว่าจะสร้างฉากไหนด้านนอกบ้าง แต่เราเลือกที่จะนำมาสร้างด้านใน เพราะด้วยสภาพอากาศ และเรื่องแสงสว่าง ผมคิดว่าฉากนั้นจะต้องออกมาดีมากแน่ ๆ”

นักออกแบบยังควบคุม เรื่องงบประมาณออกมาได้ อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย “ทุกฉากที่เราสร้างขึ้นมาและมีการถ่ายทำ จะถูกแยกส่วนออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ สำหรับฉากนั้นได้” เขายิ้ม

แฮมม็อคเล่าว่าทีมออกแบบ ต้องมีการปรับพื้นที่ของตัวเองด้วย “เป้าหมายอย่างหนึ่งคือ การนำเสนอสิ่งที่แฟน ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับการต่อสู้ในนั้น แต่เราก็ต้องใส่รายละเอียด ให้ก็อดซิลล่าด้วย” ซึ่งนั่นหมายความว่าต้องมีการแบ่งสัดส่วน ในการนำเสนอสถานที่ทั้งตัว เมืองหรือบริเวณที่มีตึกสูงด้วย

“เราออกแบบฮ่องกงขึ้นมาใหม่ โดยให้มีตึกสูงเสียดฟ้าที่ดูเหมือนต้นไม้ ฉะนั้นถึงเราจะคิดว่านั่น เป็นที่อุ่นใจของก็อดซิลล่า แต่ก็เหมือนเขากำลังเข้าไปในป่าของคอง เพราะคองได้เปรียบเรื่องความสูง การกระโดดและปีนป่านตึก พร้อมจะกระโจนใส่ก็อดซิลล่าได้ อีกมุมหนึ่งมันก็ทำให้พวกเขา ได้เปรียบกันทั้งสองฝ่าย”

มันยิ่งเป็นการเพิ่มความสงสัย ด้วยว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ “เวลาที่เราจัดฉากต่อสู้ระหว่างสองตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดหรือมนุษย์ เราอยากจะเห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา เพื่อความสมจริงในฉาก” วินการ์ดแนะนำ “จากความคิดนั้นทุกครั้งที่เราจับ ก็อดซิลล่าและคองมาประกบกัน เราจะให้พวกเขาอยู่ในบรรยากาศที่ดูร่วมสมัย ไม่ว่าจะย้อนเวลาด้วยฮอลโลว์เอิร์ธ หรือฮ่องกงในเวอร์ชันที่ดูเหนือจินตนาการ หวังว่ามันจะเป็นการสร้างความตราตรึงไว้บนโลกของสัตว์ประหลาดได้”

ชัดเจนแล้วว่า การปูทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ MonsterVerse คือการเดินทางมาสู่ Godzilla vs. Kong ปูทางมาเพื่อการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ใครยังไม่ได้ ดูขอบอกเลยว่าพลาดเต็ม ๆ ไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ที่มันส์ที่สุด ในซัมเมอร์นี้กันได้แล้วกับ Godzilla vs. Kong ฉายแล้ววันนี้ในโรงภายพนตร์

 

อ่านต่อเพิ่มเติม>>>Scarlett Johansson

คาสิโนออนไลน์

หวยออนไลน์

ช่องทางติดต่อเรา>>คลิ๊กที่นี่