หนังสุดยอดแห่งศตวรรษที่ 21 ครบรอบ 15 ปี There Will Be Blood

Posted 2022/12/27 44 0

หนังสุดยอดแห่งศตวรรษที่ 21 ครบรอบ 15 ปี There Will Be Blood

ครบรอบ 15 ปี There Will Be Blood หากว่ากันด้วยสุดยอดผลงานคุณภาพแห่งศตวรรษที่ 21 หนังเรื่องนี้ก็จะติดโผอยู่ร่ำไป ความท็อปฟอร์มของผู้กำกับ พอล โธมัส แอนเดอร์สัน การแสดงอันทรงพลังของ แดเนียล เดย์-ลูอิส ซึ่งพร้อมกันนั้นยังถือเป็นชิ้นงานที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในแง่ตัวเนื้อหาที่ยิ่งสะท้อนความเป็นไปของโลกยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน บอกเล่าถึงด้านมืดของทุนนิยม

พล็อตว่าด้วยเรื่องราวของ แดเนียล เพลนวิล นักลงทุนหาแหล่งน้ำมันยุคบุกเบิกกว่าร้อยปีก่อนที่ค้นพบทำเลทองซึ่งจะทำให้เขามั่งคั่ง กระนั้นก็เป็นความร่ำรวยแบบฉิบหายวายวอด เมื่อทรัพย์สินมหาศาลนั้นไม่อาจเติมเต็มช่องว่างในใจ หนำซ้ำกลับยิ่งสร้างปมความอ้างว้าง หวาดระแวง แค้นเคือง

แล้วอารมณ์ที่คุกรุ่นรอปะทุเป็นเปลวควันพวยพุ่งนั้นก็บอกเล่าผ่านการแสดงชั้นครูของเดย์-ลูอิส วิธีที่เขาเข้าถึงตัวตนของเพลนวิลอย่างสมบูรณ์แบบ ถ่ายทอดความเดือดดาล ความเย็นชา ความน่าชิงชัง ความลุ่มหลง โดยสำหรับหนังที่สอดแทรกศาสนา ก็สัมผัสได้เลยว่าศรัทธาเดียวของคนอย่างเพลนวิลคือเงินตรา

ขณะเดียวกัน สิ่งที่เซอร์ไพรส์ไม่เบาก็คือการที่ พอล ดาโน เข้ามาเป็นคู่ประชันอย่างสมน้ำสมเนื้อ ยิ่งคำนึงว่านี่เป็นดาวรุ่งที่ตอนนั้นแจ้งเกิดได้ไม่นาน อายุเพิ่ง 22-23 รุ่นราวเด็กมหาลัยปีสี่นี่เอง แต่สามารถหวดกับรุ่นใหญ่ได้แบบไม่มีหงอ

นอกจากนั้นดาวสมทบที่ช่วยผลักดันให้ภาพรวมยิ่งหนักแน่นก็คือฟากงานเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าการถ่ายภาพของ โรเบิร์ต เอลสวิต หรือดนตรีของ จอห์นนี่ กรีนวูด แห่งคณะ Radiohead ตลอดจนโปรดักชั่น การตัดต่อ เมคอัพ คอสตูม เอฟเฟกต์ ชิ้นงานที่แกร่งทั่วแผ่นแบบไม่มีที่ติ

และสุดท้ายก็ต้องย้อนกลับมายกย่องมันสมองของผู้กำกับอย่าง “พีทีเอ” วิสัยทัศน์ของเขาในการนำเสนออย่างเป็นศิลป์ ทำให้เนื้อหาฝังแน่นในความรู้สึกผู้ชม โดยลำพังชื่อ “There Will Be Blood” ที่คิดขึ้นใหม่จากการดัดแปลงหนังสื่อเรื่อง Oil! สามารถทำหน้าที่เป็นคำบอกใบ้ หรือคำเตือนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

ท่ามกลางความเจริญของอารยธรรม คนมักมองสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แต่ไม่ได้มองสิ่งที่ถูกทำลายลงไป ไม่ว่าอาณาจักรธุรกิจหรือสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำอาจมีเบื้องหลังการก่อร่างขึ้นโดยสังเวยบางสิ่งบางอย่าง สิ่งแวดล้อม ชีวิต หรือจิตวิญญาณ หากว่าคนถูกความละโมบกลืนกินจนไม่เหลือสามัญสำนึกและศีลธรรม เอาแต่เดินหน้ากอบโกยให้สาแก่ใจทั้งที่ไม่มีวันถมให้เต็ม

ยิ่งประโยค “ฉันกินมิลค์เชคของแก!” ที่เพลนวิลพูดในตอนท้ายยิ่งสรุปใจความ นี่คือคนที่พร้อมจะสูบน้ำมันของคู่แข่งจนเกลี้ยงอย่างไม่แยแส พยายามทำทุกทางเพื่อฉกฉวยไว้คนเดียว จนกลายเป็นว่ามันไม่ใช่เป้าหมายความสำเร็จอีกต่อไป หากแต่เป็นการได้บันดาลโทสะ ระบายความฉุนเฉียว การกินมิลค์เชคที่ไม่ใช่เพื่อดับกระหาย แต่เพื่อสนองอารมณ์ และที่น่าหนักใจก็คือโลกยุคนี้เปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นทำได้โดยไม่ผิด

 

ดูเพิ่มเติมที่>>>หนังออนไลน์ล่าสุด

ช่องทางติดต่อเรา>>คลิ๊ก