หนังอาชญากรรมไทย ที่สร้างมาจากคดีสะเทือนขวัญ

Posted 2022/11/17 43 0

หนังอาชญากรรมไทย ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้น จากข่าวฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่โด่งดัง

หนังอาชญากรรมไทย เรื่องจริงที่ถูกหยิบมาทำเป็นภาพยนตร์ จากคดีฆาตกรรมต่าง ๆ ที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ ส่วนมากจะมาจากแฟ้ม คดีสะเทือนขวัญ-ฆาตกรรม อาจจะเป็นเพราะ เป็นคดีดัง เป็นข่าวดังที่ทำให้มีคนในสังคมสนใจ ข่าวดังนอกจากเป็นที่สนใจในแง่ เป็นประเด็นที่สะท้อนปัญหาในสังคมแล้ว  ในวงการบันเทิง หรือหนังก็มีการหยิบยกเรื่องราวเหล่านั้นมาทำเป็นหนังอยู่เสมอ  วันนี้ผมจึงนำเอาหนัง 10 เรื่องที่หยิบยกเอาคดีดังของไทยมาสร้างเป็นหนังครับ หนังแนวฆาตกรรมที่สร้างมาจากเรื่องจริงที่พอนึกมี..นวลฉวี-คุณย่ามแดง-ซีอุย-ศยามล-เชอรี่แอน-บุญเพ็งบเหล็ก ฯลฯ

เรื่องจริง!! ที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ ส่วนมากจะมาจาก… แฟ้มคดีสะเทือนขวัญ-ฆาตกรรม อาจจะเป็นเพราะเป็นข่าวดังทำให้มีคนสนใจ มาดูกันว่า… หนังอาชญากรรมไทย มีเรื่องอะไรกันบ้าง

ภาพยนตร์จากข่าวฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่โด่งดัง

1.ฆ่ายัดกล่อง

คดีฆ่ายัดกล่องแล้วส่งศพมาทางรถไฟ เป็นคดีจริงที่เกิดขึ้นในปี 2508 ปีเดียวที่สร้างหนังว่างั้น โดยคดีนี้เกิดขึ้น พ.ต.ท. อนุ เนินหาด (ตอนนี้เป็น พ.ต.อ.) ถือว่าสะเทือนขวัญมาก โดยฆาตกรคือ จรินทร์ สิทธิธรรม ฉายา “กระทิงแดง ศิษย์พระกาฬ” ส่วนผู้ตายคือเด็กชาย กิมบั๊ก แซ่อึ้ง อายุ 15 ปี ไม่รู้ไปโกรธเกลียดอะไร เขาไปฆ่าเด็กนั้นแล้วยัดกล่องกระทิงแดงไปทิ้งรถไฟสายเหนือกรุงเทพ เชียงใหม่ สาเหตุเพราะเรียกค่าไถ่ไม่สำเร็จ แต่เมื่อถูกจับได้ก็รับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน ทำให้ศาลลดจากการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน

สร้างเป็นหนังฟิล์ม 16 มม. ฉายครั้งแรก 27 พฤษภาคม ปี 2508 กำกับโดย อัจฉราพันธ์ นำแสดงโดยปริม ประภาพร, แก่นใจ มีนะกนิษฐ์, ศรินทิพย์ ศิริวรรณ, เมืองเริง ปัทมินทร์ และ “กิติกร สุนทรปักษิณ”

2.บุญเพ็งหีบเหล็ก

หนังอาชญากรรมไทย

บุญเพ็ง เป็นฆาตกรฆ่าหั่นศพแบบต่อเนื่องรายแรกของประเทศไทย และเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการถูกบั่นศรีษะ ใน รศ. 242 ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ฉายา บุญเพ็งหีบเหล็ก เนื่องจาก เขาฆาตกรรมผู้หญิงและหั่นศพใส่หีบเหล็กโยนทิ้งน้ำ เหยื่อของเขาล้วน แต่ ตกหลุมสวาทของเขา เนื่องจากเขาเป็นคนรูปร่างดี ดูสุภาพอ่อนโยน และพูดจาดี อีกทั้งเรียนทางไสยเวทย์มา ตั้งสำนักหมอผี ให้บริการดูดวง สะเดาะเคราะห์ และทำเสน่ห์ยาแฝด อยู่บริเวณคลองบางลำพู เหยื่อของเขามีถึง 7 คน ก่อนที่จะถูกจับได้

มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ถึง 2 ครั้งในปี 2510 และ 2523
1) บุญเพ็งหีบเหล็ก (2510) นำแสดงโดย สมบัติ-ปริศนา ชบาไพร-แมน-ชฎาพร-เปลวใจ-นาฎ-ทานฑัต-แป้น-แก้วตา-โกร่ง..สร้างโดย เทพนิมิตภาพยนตร์..กำกับการแสดงโดย พยุง พยกุล ฉายครั้งแรกวันที่ 10 สิงหาคม 2510 ที่โรงหนังเฉลิมบุรี
2) บุญเพ็งหีบเหล็ก (2523) นำแสดงโดย สมบัติ-ปริศนา ชบาไพร-สลิตตา กระแสนิธิ-ไพโรจน์-สมชาติ-ลักษณ์-รัตนาภรณ์-สุพรรณี-พิภพ-สีเทา-โกร่ง สร้างและกำกับการแสดงโดย พยุง พยกุล ฉายครั้งแรกวันที่ 21 ธันวาคม 2523 ที่โรงหนังเพชรเอ็มไพร์-เมโทร-สามย่าน

หนังทั้งสองครั้ง ผู้สร้าง-ผู้กำกับก็เป็นคนเดียวกัน เพียงแต่รุ่นแรกสร้างเป็นหนัง 16 มม.พากย์สด ส่วนรุ่น 2 เป็นหนัง 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม การดำเนินเรื่องจะคล้ายๆ กัน ส่วนผู้แสดงเป็นตัว หมอบุญเพ็ง ฆาตกรที่ฆ่าคนใส่หีบเหล็กนั้น รุ่นแรกจะเป็น แมน ธีระพล แต่รุ่นที่ 2 จะเป็น ไพโรจน์ ใจสิงห์

นับว่าเป็นคดีที่โหดร้ายมาก และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการประหารบุญเพ็ง ว่าไม่สามารถบั่นหัวได้ในครั้งแรก และศพของเขาก็ไม่เผาใหม้บริเวณรอยสัก ญาติเก็บกระดูกใส่เจดีย์ไว้ข้างอุโบสถ์วัด จนช่วงหลังเจดีย์ถูกรื้อออก ปัจจุบันทางวัดภาษี จึงได้ให้ช่างปั้นรูปปั้นจำลอง ไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2537 ตั้งไว้ในศาลเล็ก ๆ ติดกับวิหาร ซึ่งเป็นอนุสรณ์ว่า เขาเป็นนักโทษประหารคนสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2474

3.เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม

เตือนใจ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ เตือนใจ พวงนาค นักศึกษาสาวซึ่งเรียนวิทยาลัยครูสวนสุนันทา ที่มีบ้านพักอยู่ในซอยปุณณวิถี (สุขุมวิท 101) แถวบางจาก กรุงเทพฯ ซึ่งขณะเดินทางกลับเข้าบ้านในซอยลึก ๆ ก็ถูกจิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งฉุดไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งชิงทรัพย์อย่างทารุ­ณ โดยได้ทิ้งร่องรอยไว้เป็นรอยกัดที่ร่างของเธอ ก่อให้เกิดความหวาดกลัวกับหญิงสาวในยุคนั้นมาก ตำรวจจึงเริ่มสืบหาคนร้ายจากร่องรอยศพของเตือนใจ จนจับฆาตกรได้ในที่สุด

เมื่อ 43 ปีที่แล้ว มี หนังไทยจากแฟ้มอาชญากรรม ของตำรวจเรื่องหนึ่งที่ถือฤกษ์ออกฉายในวันนี้ วันที่ 13 ตุลาคม 2522 ที่โรงหนังสยาม-ปารีส-พาราเมาท์-วอชิงตัน นั่นคือเรื่อง เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม นำแสดงโดย สุพรรษา-อรัญญา-มลฤดี-สุรสิทธิ์-รัตนาภรณ์-เทพ-ล้อต๊อก-ดลยา-ประกายดาว สร้างโดย อดุลย์โปรดักชั่น ของ สารวัตรอดุลย์ บุญเสรฐ และกำกับการแสดงโดย ดุลย์พิจิตร์

4.ไอ้ย่ามแดง

ไอ้ย่ามแดงเค้าว่ากันว่า เป็นเรื่องจริงที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ เด็กสมัยนี้ไม่มีใครรู้เคยรู้จักไอ้ย่ามแดงในอดีต หรือ “นายกล่อม บางขุนนนท์” ชายบ้าเพราะชีวิตบัดซบ ที่ลูกตาย เอาใส่ย่าม ตะเวณทั่วกรุงฯ เรื่องคือเอกและโทนเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่เด็ก หากเมื่อเติบใหญ่ชะตาชีวิตกลับเปลี่ยนผัน โทน ได้เป็นปลัดอำเภอกลับมาดูแลบ้านเกิด ส่วนเอก กลายเป็นบ้าหลังลูกเมียถูกฆ่าตายด้วยนักเลงใจโหด และคอยตามฆ่าโจรเหล่านั้นอย่างไม่ปราณี โทน จึงต้องเลือกจะช่วยเพื่อนล้างแค้นแทนบุญคุณแต่หนหลัง หรือจัดการ เอก ด้วยวิถีทางกฏหมายอย่างเฉียบขาด

เรื่องนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2523 โดย สหมงคลฟิล์ม กำกับโดย เชาว์ มีคุณสุต แสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี, สุพรรษา เนื่องภิรมย์, มานพ อัศวเทพ, วลัยกรณ์ เปาวรัตน์, อุเทน บุญยงค์, ดวงชีวัน โกมลเสน เนื้อเรื่องคือ สมัยยังเด็กๆ เอกและโทนเป็นเพื่อนรักกัน ครั้งหนึ่งโทนได้ทำความผิดและเอกก็ออกหน้ารับผิดแทน ความทรงจำในหนนั้นยังคงติดอยู่ในใจเมื่อทั้ง 2 เติบโตเป็นผู้ใหญ่ โทน (อุเทน บุญยงค์) เข้าไปเรียนในเมืองกลายเป็นปลัดอำเภอ ส่วนเอก (สรพงษ์ ชาตรี) นั้นยังคงอาภัพ ถูกนักเลงใจโฉดพรากทั้งเมียและลูกไปจนกลายเป็นคนเสียสติถือย่ามแดงเดินไปมา ชาวบ้านแถวนั้นจึงเรียกว่า “ไอ้ย่ามแดง” เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อนรักสองคนยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของกฎหมาย เอกออกตามล่าคนที่ทำคนไม่ดีกับลูกเมียของตนเอง ในขณะที่โทนยังเลือกไม่ได้ว่า บุญคุณในอดีตหรือหน้าที่อย่างใดจะสำคัญไปกว่ากัน

หนังอาชญากรรมไทย ปมรัก ความโหดร้าย ความซับซ้อนซ่อนเงื่อน

5.นวลฉวี

หนังอาชญากรรมไทย

เดือนกันยายน 2502 กลุ่มชายฉกรรณ์กลุ่มหนึ่งได้สังหาร นวลฉวี ตามคำว่าจ้าง แล้วนำศพมาทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานนทบุรี อีก สองวันต่อมา มีคนพายเรือมาพบศพ และพบร่องรอยฆาตกรรมอย่างทารุณ บนนิ้วพบแหวน มีตัวอักษร ราชเดช และนำไปสู่การสอบปากคำ หมออุทิศ ราชเดช และนำไปสู่การจับกุมตัวในที่สุด

เรื่องนี้เป็นข่าวดังในยุคนั้น เนื่องจากคนที่จ้างวานเป็นถึงนายแพทย์ และเป็นสามีของผู้ตาย จนมีผู้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และ ละครทีวีหลายครั้ง รวมถึงสะพานที่พบศพนวลฉวี ชาวบ้านก็เรียกชื่อตามนวลฉวีด้วยครับ

ปี 2527 สินจัย หงษ์ไทย รับบทนวลฉวี พยาบาลสาวที่มีรักแท้ โดยมี อภิชาติ หาลำเจียก นักแสดงหนุ่มในยุคนั้น ก่อนที่จะมาเอาดีทางการเมือง รับบทหมออุทิศ เรื่องนี้ ทำให้ สินจัย ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองดารานำหญิง ด้วยครับ

ในปี 2546 บรรจง โกศัลวัฒน์ ได้นำเรื่อง นวลฉวี มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางไอทีวี โดยใช้ชื่อ “ปมรักนวลฉวี” นำแสดงโดย ใหม่ เจริญปุระ รับบทเป็น นวลฉวี, อำพล ลำพูน รับบทเป็น หมออุทิศ และ อภิชาติ หาลำเจียก มารับบทเป็น พ.ต.อ.วิบูลย์

6.ซีอุย

หนังอาชญากรรมไทย

จากเรื่องจริงของฆาตกรโหด ซีอุย แซ่อึ้ง ที่ฆ่าเด็กและนำตับมาต้มกินในช่วงปี พ.ศ. 2497-2501 โดยมีเด็กอย่างน้อย 6 คนที่ถูกนายซีอุยสังหาร ซีอุย อาศัยเป็นชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาในเมืองไทยและขึ้นฝั่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อจริงว่า หลีอุย แซ่อึ้ง แต่คนไทยที่นั่นนิยมเรียกเพี้ยนเป็น ซีอุย ซีอุยทำงานด้วยการรับจ้างทำสวนผักและรับจ้างทั่วไป มีนิสัยชอบเกาหัวและหาวอยู่เสมอ ๆ บุคคลิกชอบเก็บตัว และนายซีอุยได้จับเด็กมาผ่าเอาตับมากิน

โดยเชื่อว่าเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ โดยได้ทำการฆ่าเด็ก 3 รายแรก ที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสุดท้ายถูกจับได้หลังจากคดีฆาตรกรรมในจังหวัดระยอง ซึ่งสุดท้ายโดนจับขังคุกและประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2502 ก่อนถูกประหารซีอุยรับว่า เมื่อสมัยอยู่เมืองจีน ได้ถูกเป็นเกณฑ์เป็นทหารไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กินเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรกจากศพของเพื่อนทหารด้วยกัน จึงติดใจในรสชาติ เนื่องด้วยไม่มีอะไรจะกิน

ศพของซีอุยถูกเก็บเพื่อนำมาตรวจสอบ โดยเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยยังคงถูกเรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “พิพิธภัณฑ์ซีอุย”

ความโหดร้ายของซีอุยนี้เอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกหยิบมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ไทยหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้ง ก็ได้ตอกย้ำภาพความน่ากลัวของชายจีนรูปร่างผอมเกร็ง มีมีดสั้นเป็นอาวุธ ที่ใช้กระชากวิญญาณเหยื่อที่ไม่มีทางสู้ และต้องกินหัวใจมนุษย์ทุกครั้งที่รู้สึกมีความต้องการ

เคยมีการสร้างเป็นละครทีวีช่อง 5 ปี 2527 โดยกันตนา นำแสดงโดย เทอดพร มโนไพบูลย์ – ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ – ฐิติมา สุตสุนทร ในปี 2534 เป็นภาพยนตร์ ชื่อเรื่อง..นายซีอุย แซ่อึ้ง โดยนำครูช่าง ชลประคัล จันทร์เรือง มาเล่นเป็นซีอุย ร่วมด้วย รณ ฤทธิชัย-ชลิต เฟื่องอารมณ์-โกวิท วัฒนกุล-ราม ราชพงษ์ -ชฎาพร รัตนากร กำกับการแสดงโดย บรรจง โกศัลวัฒน์ ตอนเด็กๆ ก็มักจะถูกหลอกเสมอโดยผู้ใหญ่ว่า ไม่ให้ไปเล่นนอกบ้านไกลๆ ไม่งั้นซีอุยจะมาควักตับไปกิน

และ ปี 2547 นำมาสร้างอีกครั้ง โดย แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส สร้างนั้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดภาพและความเข้าใจซีอุยในแบบเดิม นิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา แห่ง สยามสตูดิโอ และ บุรณี รัชไชยบุญ ผู้กำกับ ตีความอีกแบบ โดยใช้ตัวละคร นักข่าวผู้หญิงมาดำเนินเรื่อง ซีอุยภาคนี้ ถูกมองโดยได้รับความเห็นใจมากขึ้น เรื่องนี้เล่นโดย ดาราชาวจีนครับ

แต่ในปัจจุบัน ความโหดร้ายจากการที่เด็กถูกกระทำและเป็นเหยื่ออาชญากรรมนั้น ยังคงดำรงอยู่ และอาจจะน่ากลัว กว่าเรื่องราวของซีอุยหลายเท่า เพียงแต่สังคมชินชา กับความโหดร้ายดังกล่าวแล้วหรือไม่

7.ศยามล

เรื่องเกิดที่หัวหิน ปี 2536 เป็นเรื่องที่น่าตกใจเมื่อพบศพศยามล ครั้งแรก โดยพระภิกษุที่เดินบิณบาตร เพราะพบว่ามีเด็กหญิงนั่งร้องให้อยู่ข้างๆศพแม่ แสดงให้เห็นว่า ฆาตรกรฆ่าศยามล ต่อหน้าลูกน้อยเลยครับ คดีนี้จึงเป็นที่สนใจมาก เรื่องนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2538

กำกับโดย อภิชาติ หาลำเจียก จอนนี่ แอนโฟเน่ แสดงเป็น นายแพทย์บัณฑิต ผู้จ้างวานฆ่าภรรยาตัวเอง นางศยามล ลาภก่อเกียรติ ต่อหน้าลูกสาว วัย 2 ขวบ ช่วง นั้นก็เป็นที่วิจารณ์เหมือนกัน มาหยิบยกมาทำหนังเร็วเกินไปรึเปล่า เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ และเพิ่งเกิดเรื่องได้ไม่นาน ครอบครัวของผู้เกี่ยวข้องอาจได้รับผลกระทบไปด้วย

อาชญากรรมไทย คดีสะเทือนขวัญ คดีอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์

8.เชอรี่แอน

จากคดีฆาตกรรม เด็กสาวลูกครึ่ง อายุ 16 ปี เชอรี่แอน เมื่อปี 2529 และกลายเป็นคดี แพะประวัติศาสตร์ ของวงการยุติธรรมไทย นำสูการเปลี่ยนแปลงในการรับฟังพยานบุคคลในศาล ในปัจจุบัน และ การที่กระบวนการยุติธรรมต้องชดเชยในกรณีตัดสินผิดพลาดแก่เหยื่อ ถูกสร้างเป็นหนังเมื่อปี 2544 กำกับโดย จรูญ วรรธนะสิน แสดงโดย รุ่งนภา บรู๊ค รับบท เชอรี่แอน และ ชฎาพร รัตนากร รับบท ทนายสาว, ปราบ ยุทธพิชัย วันเข้าฉาย 9 พฤศจิกายน 2544

เป็นเรื่องของ รัก 4 เส้า ชาย 1 หญิง 3 ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน ยิ่งกว่านวนิยายจน ความรัก ความหึงหวง ความอิจฉาริษยา ความโลภ นำไปสู่โศกนาฏกรรมการตาย ของ เชอรี่แอน

โดยพบศพเธอที่ป่าแสมริมถนนสุขุมวิทเก่า ใกล้บางปู และมีการจับกุมนาย วิชัย ชนะพานิชย์ นักธุรกิจ พร้อมบริวาร ในฐานะผู้ต้องหาจ้างฆ่า แต่นายวิชัยรอดพ้นข้อหาได้อย่างหวุดหวิด แต่บริวาร 4 คนของเขา ก็ถูกสร้างพยานเท็จหลักฐานปลอม

จนถูกศาลขั้นต้นสั่งประหารชีวิต แพะทั้งหมดต้องถูกจองจำ เผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายในคุกไม่น้อยกว่า 6 ปี กว่ากระบวนการศาลอุทธรณ์และศาลฏีกา ภายใต้การรื้อฟื้นคดีของกองปราบ จะพิสูจน์ได้ว่าทั้ง 4 คน เป็นคนผู้บริสุทธิ์ แต่เขาทั้ง 4 ล้วนพบกับสภาพครอบครัวแตกสลาย

หนึ่งคนตายในคุก สองคนออกมาเสียชีวิตหลังพ้นจากเรือนจำไม่นาน เหลืออีกหนึ่งเดียว ต้องอยู่อย่างพิการไปชั่วชีวิต (และเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อ 12 ตุลาคม 2555) เป็นผลจากระบบการสืบสวนผู้ต้องหา ของตำรวจเลวเพื่อเค้นให้รับสภาพ และในที่สุดก็นำไปสู่การ สืบหา ติดตาม ไล่ล่า และ จับฆาตกรตัวจริง นายสมัคร ธูปบูชาการและนายสมพงษ์ บุญญฤิทธิ์ และผู้จ้างวาน นส.สุวิมล พงษ์พัฒน์ มาลงโทษจนสำเร็จ

9.คืนบาปพรหมพิราม

สร้างจากคดีสะเทือนขวัญ ปี 2520 ที่ อ. พรหมพิราม จ. พิษณุโลก เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนค่านิยมทางเพศ ที่ผู้ชายมองผู้หญิงเพียงเป็นวัตุทางเพศ และกระทำต่อผู้หญิงคนหนึ่ง และ กลายเป็นคดีอื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์ คดีหนึ่ง และ กระทำโดยผู้คนหลายหลายอาชีพ กว่า 30 ชีวิต ที่มาเกี่ยวข้องกับคดีนี้

เรื่องนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2546 กำกับโดย มานพ อุดมเดช แสดงโดย พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ แสดงเป็นหญิงสาวผู้โชคร้าย และ สมภพ เบญจาธิกุล รับบทนายตำรวจ หนังเรื่องนี้ ฮือฮาพอสมควร เมื่อเข้าฉายครับ ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องไป จาก คนบาป พรหมพิราม เป็น คืนบาป พรหมพิราม ในที่สุด

10.ฆ่าโปกปูน

เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงเช่นกัน ฆาตกรชื่อ เกียรติศักดิ์ พูลสวัสดิ์ เป็นถึงครูดีเด่น ปี 2532 แต่เดือดร้อนเรื่องการเงินจนสวมวิญญาณมัจจุราชฆ่าลูกศิษย์วัยเพียง 12 ปี ชื่อ ทัศนีย์ แสงรัตนทองคำ ก่อนจะนำมายัดโลงไม้แล้วโบกปูนทับนำไปทิ้งน้ำ ทั้งๆ ที่เขาสนิทกับครอบครัวของเหยื่อนั้นยิ่งกว่าญาติสนิทและผลสุดท้ายถูกจับ ศาลลดจากการประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน

ในปี 2546 นำมาสร้างเป็นหนังแผ่น สร้างโดย RS Film แสดงโดย จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, สามารถ พยัคฆ์อรุณ กำกับโดย ภาคย์

 

อ่านต่อ>>>หนังคดีจากเรื่องจริง

UFABET

แทงบอลออนไลน์